วันนี้(11ก.ย.)สมาชิกเฟซบุ๊คท่านหนึ่งได้แจ้งข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจของ MThai News โดยเผยรายละเอียดของพวกชอบแท็กโฆษณาทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตรายได้ดี โดยระบุว่า
เนื่องด้วยมีการขยายการกระทำผิดเป็นวงกว้างเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ในการชักจูง โฆษณาชวนเชื่อให้บรรดา นักศึกษา หรือบุคคลที่มีอายุ 18 ปี ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ในรูปแบบของการขายตรง ลักษณะการกระทำผิดจะเป็นการแท็กหาเหยื่อซึ่งมีข้อความว่า”ต้องการหาบุคคลที่มีอายุ 18 ปี ไม่จำกัด เพศ วุฒิการศึกษา ให้มาช่วยโปรโมทแบนเนอร์ของบริษัท รายได้ อาทิตย์ละ 3000-5000 บาทและจะมากกว่านั้นถ้าทำอย่างต่อเนื่อง”
แล้วก็จะการให้ฝากชื่อกับเบอร์โทรไว้ใต้โพสหรือจะมีการทิ้งลิ้งค์ไว้กรอกข้อมูลติดต่อ ซึ่งบุคคลที่ใช้สื่อนี้ในการหาเหยื่อจะมีสื่อประเภทเฟซบุ๊ค และอื่นๆที่มีมากกว่า 1 บัญชีอาจจะถึงร้อยบัญชีด้วยซ้ำ
เห็นได้จากการสร้างกลุ่มและใช้แต่ละบัญชีดึงรายชื่อเข้ากลุ่มบางกลุ่มจะมีรายชื่อเป็นแสนรายชื่อ เพราะรายชื่อยิ่งเยอะยิ่งกระจายข้อความในการหาเหยื่อมากขึ้น พอมีเหยื่อหลงกรอกข้อมูลก็ให้เจ้าหน้าที่หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งคือที่ปรึกษาโทรบอกว่าให้เตรียมเอกสารสมุด ปากกา เพื่อเข้าร่วมฟังการอบรมงานตามโรงแรมต่างๆของแต่ละจังหวัดที่เหยื่ออาศัยอยู่ ซึ่งจะจัดทุกสัปดาห์เพราะมีเหยื่อกรอกข้อมูลเป็นรายวัน และจะให้เหยื่อจ่ายเงินค่าที่นั่งจำนวนคนละ 200 บาทเพื่อรับฟังการชี้แจง
บรรยากาศภายในงานจะมีผู้บรรยายเกี่ยวกับชื่อบริษัท สถานที่ ยกเว้นประวัติบางส่วนที่มีการเติบโตมาในรูปแบบใดนั้นจะมีการปกปิดไว้และจะนำประสบการณ์ของผู้ที่ร่วมทำแล้วประสบความสำเร็จหรือรวยแล้วในการสร้างความเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะล่อด้วยคนที่รวยๆมีรถสปอร์ตหรูๆนำมาเสนอในงานเพื่อเกิดแรงจูงใจให้กับเหยื่อโดยจะมีเพื่อนร่วมทีมคอยส่งเสียงเชียร์ลั่นห้องอยู่ข้างหลังซึ่งเพื่อนร่วมทีมที่ว่าบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆต้องแต่งตัวสุภาพ ต้องคอยส่งเสียงเชียร์ และจะถูกเชิญออกยืนยันรายได้ต่อหน้าเหยื่อว่าได้อาทิตย์ละเท่านั้นเท่านี้โดยที่ไร้หลักฐานใดๆ
ในการลงทุนของเหยื่อจะมีการให้เลือกลงทุนหลายกรณี เช่น ลงทุนน้อยก้อจะได้แลกกับตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ที่มีเงินเดือนเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งปรากฎภายหลังว่าไม่มีการจ่ายเงินที่ว่าแต่อย่างได้ นอกจากการให้ผลตอบแทนโดยการให้เหยื่อไปใช้สื่อที่ว่าข้างต้นไปหาเหยื่อต่อๆไปอีกแล้วก้อจะทำกันไปแบบนี้เรื่อยไม่รู้ถึงจุดสิ้นสุด ที่ทราบแน่ชัดคือยิ่งมีคนเข้าร่วมมากเท่าใดสินค้าก้อจะยิ่งปล่อยจากบริษัทมากขึ้นและจะถูกนำให้คนที่เข้าร่วมมาสร้างสื่อเยอะๆเพื่อให้ลูกค้าซื้อของทางอินเทอร์เน็ต
ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นบางส่วนเพราะยังมีเงื่อนไขของบริษัทอีกเยอะในการเอาเปรียบสมาชิกและขอยืนยันความถูกต้องและขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปตรวจสอบต่อไป เพราะถือว่าเป็นภัยที่เกิดขึ้นกับสังคมในวงกว้างและจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆตราบใดที่ไม่มีการเอาผิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น